ปานามา - คอสตาริก้า - นิคารากัว - เอล ซาวาดอร์ - ฮอนดูรัส - กัวเตมาลา - เบลีซ
ทัวร์
อเมริกากลาง
ระยะเวลา
20 วัน 16 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
18 ก.พ.-8 มี.ค. 2563 / 1-20 ธ.ค. 2563
Hilight

ทัวร์อเมริกากลางทัวร์ดินแดนที่เป็นแหล่งอารยะธรรมของชาวพื้นเมืองที่ยิ่งใหญ่หลายเผ่าพันธุ์ ที่เคยมีอำนาจรุ่งเรืองอยู่บนผืนแผ่นดินแห่งนี้ เช่น อาณาจักรแอสเทค  อาณาจักรอินคา และอาณาจักรมายา ที่ได้ทิ้งร่องรอยความยิ่งใหญ่เกรียงไกรให้คนปัจจุบันได้เห็นและศึกษา ทั้งในส่วนของสิ่งก่อสร้าง ผู้คน และ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อดั้งเดิมต่างๆ ดินแดนแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เพราะสีสันความมีเสน่ห์ที่แตกต่างจากที่อื่น เป็นที่รวมของผู้คนในวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีสีสันกลิ่นอายของความเป็นเมืองอาณานิคมสเปนในอดีต นอกจากธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งภูเขา ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธาร ท้องทะเล และชายหาดที่สวยงาม 

โกลบอล ฮอลิเดย์ ขอนำท่านร่วมเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในดินแดนแห่งทวีปอเมริกากลาง ที่จะเป็นรางวัลชีวิตที่ท่านจะประทับใจกับสิ่งที่ได้ไปสัมผัส และเรื่องราว วิถีชีวิตของชาวเผ่ามายาในแถบอเมริกากลางด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันไปทัวร์อเมริกากลาง ไปกับโกลบอล ฮอลิเดย์

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    1) วันแรก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – สนามบินอัมสเตอร์ดัม
    • 09.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 7 เคาน์เตอร์ P สายการบินเคแอลเอ็ม รอยัลดัชแอร์ไลน์ (KLM Royal Dutch Airlines) เจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน
      12.15 น. ออกเดินทางสู่ อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เที่ยวบินที่ KL876  (1205-1845) (ใช้เวลาบิน 12 ชั่วโมง 15 นาที)
      18.30 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติสคิปโฮล อัมสเตอร์ดัม  นำท่านเช็คอินพักผ่อนที่โรงแรม Mercure Schiphol Terminal ภายในสนามบิน (กรุณาเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับพักที่โรงแรมในสนามบิน 1 คืน)  
      อิสระอาหารค่ำ 
      พักผ่อนที่โรงแรม MERCURE SCHIPHOL TERMINAL, AMSTERDAM  (1)
  • Day 2
    2) วันที่สอง อัมสเตอร์ดัม – ปานามา ซิตี้ (D)
    • 08.30 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม  เมื่อได้เวลาพอสมควร แล้วเช็คเอ้าท์
      11.25 น. ออกเดินทางสู่ ปานามา ซิตี้ เที่ยวบินที่ KL757 (1125-1630) (ใช้เวลาบิน 11 ชั่วโมง 5 นาที) 
      16.30 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติโตคุเมน (Tocumen International Airport) เมืองปานามา ซิตี้ (Panama City) 
      หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เดินทางมุ่งหน้าสู่โรงแรมที่พักเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL BRISTOL 4*, PANAMA CITY หรือเทียบเท่า (2)
  • Day 3
    3) วันที่สาม ปานามา ซิตี้ (ประเทศปานามา) (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านชมเมืองหลวง ปานามา ซิตี้ (Panama City) เมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1519 โดยนักปกครองชาวสเปนชื่อ เปโดร เอเรียส เดอ อวิล่า (Pedro Arias de Avila) ต่อมาถูกทำลายลงด้วยกองโจรสลัด และถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งในเวลาต่อมา เมืองหลวงแห่งนี้จัดเป็นเมืองที่มีฐานะร่ำรวยมากที่สุดในบรรดาเมืองหลวงต่างๆ ในแถบอเมริกากลาง สืบเนื่องมาจากการค้าทางเรือโดยผ่านทางคลองปานามา เอกลักษณ์เด่นของปานามา ซิตี้ คือ ความหลากหลายของเมืองที่มีคละเคล้ากันทั้งความเป็นเมืองใหม่ที่ทันสมัยเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า และความเป็นเมืองเก่าที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 16 ชมวิวเมืองปานามาที่ทันสมัย ตึกระฟ้า ย่านเศรษฐกิจของเมืองปานามา ซิตี้
      แล้วเดินทางต่อไปยัง มิราฟลอเรส ล็อกซ์ (Miraflores Locks) เพื่อชม คลองปานามา (Panama Canal) คลองขุดที่เกิดจากความมหัศจรรย์ของฝีมือมนุษย์ ซึ่งมีความยาวกว่า 80 กิโลเมตร เริ่มต้นจากเมืองปานามา ซิตี้ ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกไปจรดที่เมืองโคลอน ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ในแต่ละปีคลองปานามาจะเต็มไปด้วยเรือขนาดใหญ่สัญจรผ่านไปมา ปีละไม่ต่ำกว่า 14,000 ลำ สร้างรายได้ให้แก่ประเทศปานามาไม่น้อยในแต่ละปี 
      นำท่านชมพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติการก่อสร้างคลองปานามาและเทคนิคการปล่อยน้ำเพื่อให้เรือสินค้าแล่นผ่านได้  
      จากนั้นนำท่านเดินเลียบริมตลิ่งเพื่อชมย่านเก่าแก่ของเมืองที่เรียกว่า “Casco Antigua” ท่านจะเห็นอาคารเก่าแก่มากมายย้อนไปในยุคศตวรรษที่ 17-18 รวมทั้งโบสถ์และวิหารต่างๆ  แวะชม โบสถ์ซาน โฮเซ (San Jose Church) ภายในมีแท่นอัครบูชาทองคำที่งดงามที่ถูกทาสีดำทับเพื่ออำพรางจากเหล่ากองโจรสลัดที่บุกมาปล้นเมืองในปีค.ศ.1671 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย นำท่านชมซาก เมืองเก่าของปานามา (Panama Viejo) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้  ท่านสามารถปีนขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมวิวโดยรอบของกรุงปานามา ซิตี้  นำท่านไปยังบริเวณอ่าวปานามา เขตตะวันตกของ Balboa เพื่อชมเส้นทาง Causeway ที่เดิมได้รับการออกแบบเป็นคลองเขื่อนกั้นมหาสมุทรแปซิฟิกระยะทาง 6 กิโลเมตรยื่นออกไปในอ่าวปานามา เชื่อมโยงแผ่นดินใหญ่กับเกาะเล็กๆ Naos, Perico และ Flamenco สถานที่พักผ่อนและทำกิจกรรมในวันหยุดสุดสัปดาห์ของชาวเมือง เช่น ว่ายน้ำ  เดินเล่น Rollerblade หรือขี่จักรยาน เพลิดเพลินไปกับอากาศทะเลและวิวของเมือง 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL BRISTOL 4*, PANAMA CITY หรือเทียบเท่า (3)
  • Day 4
    4) วันที่สี่ ปานามา ซิตี้ – ซาน โฮเซ่ (ประเทศคอสตาริก้า) (B,L,D)



    • เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้า (แบบ Breakfast box)
      เดินทางสู่สนามบินนานาชาติโตคุเมน (Tocumen International Airport)
      08.52 น. ออกเดินทางสู่ ซาน โฮเซ่ ประเทศคอสตาริก้า โดย สายการบินโคปา แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CM144 (0852-0913) (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 21 นาที) 
      09.13 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติซานโฮเซ่ ประเทศคอสตาริก้า 
      Costa Rica หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐคอสตาริก้า เป็นประเทศในภูมิภาคอเมริกากลาง มีอาณาเขตจรดประเทศนิคารากัวทางทิศเหนือ จรดประเทศปานามาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จรดมหาสมุทรแปซิฟิกทางทิศตะวันตกและทิศใต้ และจรดทะเลแคริบเบียนทางทิศตะวันออก ประเทศนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของภูมิภาคในเรื่องการมีเสถียรภาพทางการเมือง และบางครั้งได้ชื่อว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์ของอเมริกากลาง"  คอสตาริก้า มีพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางกิโลเมตร เทียบกับประเทศไทยแล้วเล็กกว่ากันถึง 10 เท่า มีจำนวนประชากรเพียง 5 ล้านคน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ทำให้มีพืชพันธุ์ไม้อุดมสมบูรณ์ที่ไม่สามารถพบได้ในประเทศอื่น มีพื้นที่เป็นเขตป่าสงวนมากถึงร้อยละ 25 ของประเทศ และถือเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกาที่ออกกฎหมายห้ามล่าสัตว์ทุกชนิด และเคยได้รับการประกาศจากมูลนิธินิวอีโคโนมิค (NEF) ให้เป็นประเทศที่มีความเขียวชอุ่ม หรือมีป่าไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกอีกด้วย
      นำท่านสำรวจ เมืองซาน โฮเซ่ (San Jose) เริ่มต้นในใจกลางเมืองที่ ตลาด Mercado Central ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1880 ตลาดกลางที่ท่านจะได้พบกับร้านค้า ร้านอาหาร ร้านผลไม้ และร้านขนาดเล็กที่ตั้งเรียงรายในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า "โซดัส" (Sodas = สถานที่ทั่วไปและง่ายต่อการกิน หรือคล้ายๆ ตลาดเปิดท้ายหรือตลาดโต้รุ่งบ้านเรา) 
      มัคคุเทศก์จะนำท่านเดินไปรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้และอธิบายบางส่วนของประเพณีการทานอาหารท้องถิ่นที่อร่อยและมีชื่อเสียง ท่านสามารถลองลิ้มผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นได้  นอกจากนี้ยังมีร้านขายยาสมุนไพรแบบสดๆ (เป็นอย่างไรไปชมให้เห็นกับตา)  
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      บ่าย นำท่านชม โรงละครแห่งชาติ เพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมล้ำค่าของชาวคอสตาริก้า  จากนั้นนำท่านไปชม พิพิธภัณฑ์ทองคำ ในยุคก่อนโคลัมบัส และเป็นสถานที่จัดแสดงเรื่องราวของชนพื้นเมือง วัตถุโบราณ เครื่องมือ เครื่องใช้และเครื่องดนตรี รวมถึงเงินตราที่เป็นของมีค่าอีกด้วย 
      จากนั้นนำท่านนั่งรถผ่านชม ย่านสวนสาธารณะ Morazán Park แหล่งจำหน่ายผ้าและไวน์เก่า แล้วนั่งรถต่อไปทางทิศตะวันออกของซานโฮเซ่ ผ่านชมเมืองใหม่ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า San Pedro  น้ำพุ Hispanidad วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยคอสตาริก้า ศูนย์ราชการ ห้องสมุดแห่งชาติ อาคารทางการเมืองที่สำคัญ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และมหาวิหารประจำเมือง ปิดท้ายวันด้วยการช้อปปิ้งของที่ระลึกที่เกี่ยวกับเมืองซาน โฮเซ่ 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ บริการด้วยอาหารพื้นเมืองและการแสดงดนตรีกับทิวทัศน์ท่ามกลางหุบเขา  
      พักผ่อนที่โรงแรม HOLIDAY INN AUROLA 4*, SAN JOSE หรือเทียบเท่า (4)
  • Day 5
    5) วันที่ห้า อุทยานแห่งชาติโปแอส – หมู่บ้านเกวียนซาร์ชิ – ซาน โฮเซ่ (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      ออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติโปแอส ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ไร่กาแฟ ภูเขาไฟโปแอส (Poas Volcano) ที่ระดับความสูง 2,700 เมตร ชมปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว มีขนาดความกว้างของเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.3 กิโลเมตร ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเดินชมทะเลสาบสีเทอร์คอยส์ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ของอุทยาน  (ใช้เวลาเดินชมประมาณ 2 ชั่วโมง)

      จากนั้นนำท่านไปยังหมู่บ้าน Sarchi (เดินทางประมาณ 30 นาที) หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้วยศิลปหัตถกรรม ที่รู้จักกันดีที่สุดคือ งานช่างเกวียนที่มีการทาสีสันสดใสและแอกวัว - สัญลักษณ์ประจำชาติของชาวบ้านคอสตาริก้า ประเพณีของการวาดภาพและการตกแต่งเกวียนเริ่มต้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งวัวพาหนะหลักของการขนส่งในประเทศที่เป็นภูเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการขนส่งเมล็ดกาแฟไปยังตลาด แต่เดิมพื้นที่แต่ละคนมีการออกแบบเกวียนให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งสามารถระบุแหล่งที่มาของคนขับโดยรูปแบบการทาสีบนล้อรถเข็นของเขา วันนี้ทางเกวียนยังคงมีบทบาทสำคัญในขบวนพาเหรดและงานเฉลิมฉลองทางศาสนา เข้าเยี่ยมชมโรงงาน Carretas Joaquin Chaverri (สร้างเกวียน) ที่นี่ท่านจะได้รู้จักกับประวัติความเป็นมาของธุรกิจของครอบครัวและประวัติศาสตร์และประเพณีของเกวียนที่มีชื่อเสียงและมีสีสัน 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย นำท่านชมทรัพยากรที่มีค่า "ทองคำสีดำ" คือกาแฟนั่นเอง ที่ไร่กาแฟ Espirito Samto ชมประวัติความเป็นมาและวิธีการปลูกกาแฟที่มีชื่อเสียงของคอสตาริก้า ขั้นตอนการผลิตและส่งออก พร้อมทั้งเลือกชิมกาแฟที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรสให้ลิ้มลอง
      เดินทางกลับสู่ เมืองซาน โฮเซ่ 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม 
      พักผ่อนที่โรงแรม HOLIDAY INN AUROLA 4*, SAN JOSE หรือเทียบเท่า (5)
  • Day 6
    6) วันที่หก ซาน โฮเซ่ – มานากัว (นิคารากัว) – กรานาด้า (Granada) (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      08.30 น. เดินทางสู่สนามบินนานาชาติฮวน ซานตา มาเรีย (Juan Santamaría International Airport) เมืองซาน โฮเซ่
      10.47 น. ออกเดินทางสู่ มานากัว ประเทศนิคารากัว โดย สายการบิน Lacsa เที่ยวบินที่ LR716 (1047-1157) (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 10 นาที)
      11.57 น. เดินทางถึงสนามบินออกัสโต้ ซี ซานดิโน (Augusto C Sandino Airport) เมืองมานากัว ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากผ่านการตรวจคนเข้าเมืองพร้อมรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว พบกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยให้การต้อนรับ    
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน 
      นำท่านชม เมืองมานากัว (Managua) เป็นเมืองหลวงของประเทศนิคารากัว ตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบมานากัว มีจำนวนประชากรราว 1,380,000 คน เมืองนี้ได้รับการจัดตั้งเป็นเมืองหลวงในปี ค.ศ. 1855 ก่อนหน้านี้ที่ตั้งเมืองหลวงย้ายไปมาระหว่างเมืองลียอนกับเมืองกรานาด้า ชาวมานากัวเกือบทั้งหมดเป็นชาวผิวขาวที่พูดภาษาสเปนและเชื้อสายเมสติโซ มีชุมชนรุ่นที่สาม รุ่นที่สี่ และรุ่นที่ห้าของชุมชนชาวกาตาลัน ชาวเยอรมัน ชาวอิตาลี และชาวฝรั่งเศส เช่นเดียวกับชาวตะวันออกกลางและชาวเอเชีย ชาวญี่ปุ่นและชาวจีน (ทั้งชาวจีนแผ่นดินใหญ่และชาวไต้หวัน) ไม่กี่ปีมานี้จำนวนชาวอเมริกา (ทั้งอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้) ที่ย้ายเข้าสู่กรุงมานากัวและประเทศนิคารากัวได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์มีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศคอสตาริก้า
      นำท่านชม National Palace Museum ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Xolotlan ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองของนิคารากัว  และเยี่ยมชมเนิน Loma de Tiscapa อดีตที่ตั้งที่พักอาศัยของประธานาธิบดีซาโมซ่า และสามารถชมวิวเมืองเก่าและเมืองใหม่ของมานากัว 
      นำท่านเดินทางโดยรถต่อไปยัง เมืองกรานาด้า (Granada) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที 
      อดีตเมืองอาณานิคมสเปนอีกแห่งหนึ่งที่ยังคงความงดงามแบบดั้งเดิมไว้ สร้างในปีค.ศ.1524 โดยฟรานซิสโก้ เฮอนันเดส เดอ คอโดบา (Francisco Hernandez de Cordoba) เป็นเมืองอาณานิคมสเปนที่เก่าแก่ที่สุดในนิคารากัว ที่ตั้งของเมืองอยู่ที่เชิงเขามอมบาโช่ (Volcan Mombacho) ริมฝั่งทะเลสาบนิคารากัว สามารถเชื่อมออกสู่ทะเลแคริเบียนได้โดยผ่านทะเลสาบนิคารากัว (Lago de Nicaragua) และแม่น้ำซานฮวน (Rio San Juan) เป็นผลให้เมืองแห่งนี้ถูกใช้เป็นเมืองท่าการค้าที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณ 
      นำท่านชม เมืองกรานาด้า เมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปอเมริกายุคอาณานิคม ชม โรงเรียนคอนแวนต์และโบสถ์ ซาน ฟรานส์ซิสโก (Convento San Francisco) เดิมสร้างในปีค.ศ.1585 เคยถูกเผาทำลายลงและสร้างใหม่อีกครั้ง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในเมือง 
      นำท่านนั่งรถม้าเพื่อผ่านชมย่านเมืองเก่า อันเป็นศูนย์กลางที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ อาทิเช่น พระราชวังบิชอป โบสถ์ลา เมอเซด (Church La Merced) โบสถ์ที่สวยงามที่สุดในเมืองกรานาด้า สร้างเสร็จในปีค.ศ.1539 เคยถูกทำลายลงโดยฝีมือกองโจรสลัดและกองทัพข้าศึกถึงสองครั้ง แต่ได้ถูกบูรณะใหม่ในปีค.ศ.1862 ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม และศาลาว่าการ เป็นต้น
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL PLAZA COLON, GRANADA  หรือเทียบเท่า (6)
  • Day 7
    7) วันที่เจ็ด กรานาด้า – คาตาริน่า (Catarina) – มาซาย่า (Masaya) – ลียอน (Leon) (B,L,D)

    • เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้า และเช็คเอ้าท์ 
      ออกเดินทางไปยัง หมู่บ้านคาตาริน่า (Catarina Village) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที หมู่บ้านเล็กที่มีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ณ ระดับความสูง 520 เมตร มีสภาพอากาศที่เหมาะสม จึงมีการปลูกพืชสวนและไม้ประดับเป็นอาชีพ นอกจากนี้ยังทำเฟอร์นิเจอร์ งานหัตถกรรม ของตกแต่งบ้านที่ใช้โทนสีขาวเป็นหลัก จึงทำให้เรียกหมู่บ้านนี้ว่า Los Blancos Pueblos หรือ หมู่บ้านสีขาว  จากนั้นนำท่านไปยังจุดชมวิวทะเลสาบอาโปโย   
      เดินทางต่อสู่ เมืองมาซาย่า เมืองที่เป็นศูนย์กลางด้านงานศิลปหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของนิคารากัว
      นำชม ตลาดมาซาย่า (Masaya Market) สถานที่ซึ่งท่านสามารถจับจ่ายซื้อของพื้นเมืองได้อย่างสนุกสนานเพราะเป็นตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยงานศิลปหัตถกรรมพื้นเมืองที่ควรหาซื้อเป็นของฝาก อาทิเช่น งานตะกร้าจักสานสีสันสดใส งานไม้แกะสลัก งานปั้นเซรามิค งานเครื่องหนัง เครื่องประดับต่างๆ เป็นต้น 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      เดินทางต่อไปยัง ลียอน (Leon)  (ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชั่วโมง) เพื่อนำชมวิหารที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง สร้างโดยกวีผู้ยิ่งใหญ่ Ruben Dario บนชั้นบนสุดของวิหารท่านสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองโดยรอบ พร้อมกับชมพิพิธภัณฑ์ที่เก็บของมีค่าของ Ruben Dario
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL EL CONVENTO 3*, LEON  หรือเทียบเท่า (7)
  • Day 8
    8) วันที่แปด ลียอน – มานากัว – ซาน ซัลวาดอร์ (ประเทศเอล ซัลวาดอร์) (B,-,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      08.00 น. ออกเดินทางโดยรถ จากเมืองลียอน สู่สนามบินออกัสโต้ ซี ซานดิโน เมืองมานากัว (ระยะทางประมาณ  95 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง 45 นาที) 
      10.00 น. เดินทางถึงสนามบินออกัสโต้ ซี ซานดิโน เพื่อเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ สายการบิน TACA Airlines 
      12.35 น. ออกเดินทางสู่ ซาน ซัลวาดอร์  ประเทศเอล ซัลวาดอร์ โดย สายการบิน TACA Airlines เที่ยวบินที่ TA490 (1235-1330) (ใช้เวลาบิน 55 นาที)
      13.30 น. เดินทางถึงสนามบิน Monsenor Oscar Armulfo Romero International Airport  ประเทศเอล ซัลวาดอร์ ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จากนั้นเดินทางสู่เมืองซาน ซัลวาดอร์ 
      นำชม เมืองซาน ซัลวาดอร์ (San Salvador) เมืองหลวงของประเทศเอล ซัลวาดอร์ เมืองซาน ซัลวาดอร์ เป็นเมืองหลวงที่มีการเปรียบกับเหรียญทั้งสองด้าน คือมีทั้งด้านมืดและด้านสว่างสำหรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน เนื่องจากเมืองใหญ่แห่งนี้มีย่านที่มีชื่อด้านการเกิดอาชญากรรมซึ่งไม่ใช่ย่านที่นักท่องเที่ยวสมควรไป และย่านเมืองที่มีความเจริญ สวยงาม พร้อมความสะดวกสบายแบบเมืองใหญ่โดยทั่วไป ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงแรมที่พักที่หรูหรา และร้านอาหารมากมาย ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่น่าสนใจ  เดิมทีเมืองหลวงแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างออกไปจากที่ตั้งในปัจจุบันทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 30 กิโลเมตร เริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ. 1525 โดยชาวสเปนนามว่า เปโดร เดอ อัลวาราโด้ (Pedro de Alvarado)  
      นำท่านชมเมืองโดยรอบ ชมบริเวณ ย่านใจกลางเมือง (City Center) ซึ่งมีสถานที่สำคัญมากมาย อาทิเช่น มหาวิหารกลางใจเมือง (Catedral Metropolitana) อาคารที่ทำการรัฐบาล (Palacio Nacional) สร้างราวต้นศตวรรษที่ 20 โดยใช้หินอ่อนจากอิตาลี หอสมุดแห่งชาติ (Biblioteca Nacional) โรงละครแห่งชาติ (Teatro Nacional) เป็นต้น
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      พักผ่อนที่โรงแรม HILTON PRINCES 4*, SAN SALVADOR  หรือเทียบเท่า (8)
  • Day 9
    9) วันที่เก้า ซาน ซัลวาดอร์ – โฮยา เดอ เซเรน - เมืองซูชิโตโต้ (Suchitoto) (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      จากนั้นนำท่านไปยังแหล่งเก็บรักษาวัตถุทางโบราณคดีที่มีชื่อเสียง โฮยา เดอ เซเรน (Joya de Ceren) หนึ่งในสถานที่เก็บรักษาวัตถุโบราณไว้อย่างดีที่สุด หมู่บ้านเกษตรกรรมชาวมายาเล็กๆ ที่มีตั้งแต่ยุค 1200 ปีก่อนคริสตกาล ที่ถูกลาวาและเถ้าจากภูเขาไฟระเบิดและทับถม และมีการตั้งถิ่นฐานใหม่ในยุคถัดมา ช่วง ค.ศ.200-400 ปี ในปีค.ศ. 590 มีภูเขาไฟระเบิดอีกครั้งและลาวาไหลทับท่วมหมู่บ้านอีก แต่ด้วยอุณหภูมิของลาวาที่เย็นตัวย่างรวดเร็วทำให้สิ่งของต่างๆ ที่ถูกทับถมไว้ยังคงอยู่ในสภาพเหมือนโดนแช่แข็ง สูง 4-8 เมตร โบราณสถานแห่งนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญในปี ค.ศ. 1976 ครั้งนั้นรัฐบาลต้องการปรับหน้าดินเพื่อโครงการเกษตรของรัฐ จากนั้นได้ทำการสำรวจและอนุรักษ์ไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ชมและศึกษา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
      (ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร จากซาน ซัลวาดอร์ ถึง โฮยา เดอ เซเรน  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      ออกเดินทางไปยังเมืองซูชิโตโต้ เมืองชายแดนของประเทศเอล ซัลวาดอร์และฮอนดูรัส ระยะทางประมาณ 60 กม.
      ชม เมืองซูชิโตโต้ (Suchitoto) เมืองที่มีชื่อเรียกเป็นภาษาถิ่นนาฮอลท์ (Nahualt) ว่า “Ciudad Pajaro Flor” แปลว่า “เมืองแห่งนกและดอกไม้” เมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์แห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์สวยงาม และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประเพณีและวัฒนธรรมที่ยังคงสืบทอดกันมา ตัวอาคารบ้านเรือนมีระเบียงที่เป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบโบราณ ถนนหนทางทำด้วยหินทั้งหมด นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมืองซูชิโตโต้ เมืองที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ บ้านที่มีสไตล์โคโลเนียล ถนนที่ปูด้วยหิน พร้อมแวะชมโบสถ์สมัยอาณานิคมในช่วงศตวรรษที่ 16 ชมร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก  และอาหารท้องถิ่น ที่เรียกว่า Pupusa อาหารของชนเผ่ามายาที่พบหลักฐานการเตรียมอาหารชนิดนี้ที่ซากเมืองโฮยา เด เซเรนด้วย 
      ช่วงเย็น นำท่านล่องเรือชมบรรยากาศของ ทะเลสาบซูชิตลัน (Lago Suchitlan) เป็นทะเลสาบขนาดพื้นที่ประมาณ 135 ตารางกิโลเมตร ที่เกิดจากการสร้างเขื่อน ทำให้น้ำไหลมาท่วมในบริเวณนี้จนเกิดเป็นทะเลสาบ ชมเกาะแก่งน้อยใหญ่ ที่เป็นที่อยู่ของนกอพยพชนิดต่างๆ จำนวนมากกว่า 200 สายพันธุ์ 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL LOS  ALMENDROS DE SAN LORENZO 3*, SUCHITOTO หรือเทียบเท่า (9)
  • Day 10
    10) วันที่สิบ ซูชิโตโต้ – โคปัน (ประเทศฮอนดูรัส) (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านเดินทางไปยังชายแดนระหว่างเอลซัลวาดอร์-กัวเตมาลา-ฮอนดูรัส หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
      เดินทางต่อไปยังเมืองที่คงมีเสน่ห์ของหมู่บ้านโคปัน (Copan) ในฮอนดูรัส  ระหว่างทางชมวิถีชีวิตชาวชนบทสองข้างทางที่ไกลความเจริญ  
      ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 235 กม.
      กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน 
      เดินทางกันต่อจนถึงเมืองโคปัน
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL MARINA COPAN 3* หรือเทียบเท่า (10)
  • Day 11
    11) วันที่สิบเอ็ด โคปัน - อุทยานเขตอนุรักษ์พันธุ์นกและธรรมชาติ (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      หลังอาหารเช้า เดินทางไปชม อาณาจักรโคปัน แหล่งโบราณคดีที่มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกชาวมายา จนได้รับการจัดขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในอเมริกากลางอีกแห่งหนึ่ง ได้มีผู้เคยเปรียบโคปันเป็นนครเอเธนส์แห่งโลกใหม่ ด้วยหลักฐานที่หลงเหลือให้รุ่นหลังได้ศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมชิ้นสำคัญ นั่นคือ จารึกประวัติศาสตร์ที่แกะสลักในรูปอักษรฮีโรกลิฟฟิกบนขั้นบันไดหิน (Hieroglyphic Stairway) จำนวนทั้งสิ้น 1,250 ก้อน โดยบอกเล่าเรื่องราวของอาณาจักรโคปัน รวมทั้งกษัตริย์ผู้ปกครองในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโบราณสถานหลักอื่นๆ ที่น่าชม เช่น พลาซ่าหลัก (Great Plaza) ซึ่งมีกลุ่มแท่งเสาหินและรูปปั้นโบราณในสมัยศตวรรษที่ 8 มากมาย จากนั้นเดินทางไปชม พิพิธภัณฑ์รูปปั้นแกะสลักของมายา (Maya Sculpture Museum) เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดชมในโคปัน เพราะเป็นเสมือนจุดเด่นที่ทำให้โบราณสถานแห่งนี้แตกต่างจากโบราณสถานแห่งอื่นๆ ในโลกชาวมายา ภายในพิพิธภัณฑ์รวบรวมงานประติมากรรมที่จัดเป็นโบราณวัตถุไว้มากมาย และมีส่วนที่สำคัญคือมีการจำลองวิหารโรซาลีล่า (Rosalila Temple) ที่สร้างในศตวรรษที่ 6 ซึ่งนักโบราณคดีขุดค้นเจอโดยบังเอิญในขณะที่ขุดอุโมงค์และวิหารเดิมนี้ยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย นำท่านชม อุทยานเขตอนุรักษ์พันธุ์นกและธรรมชาติ (Macaw Mountain Bird Park & Nature Reserve) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโคปัน ห่างจากตัวเมืองมาเพียง 2.5 กิโลเมตร ในเขตอุทยานได้ถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกับธรรมชาติที่สวยงามในฮอนดูรัส มีนกพันธุ์ต่างๆ ที่เคยบาดเจ็บและถูกช่วยเหลือมารักษาที่นี่ ตลอดจนนกต่างๆ ที่ใกล้สูญพันธุ์  ภายในเขตอนุรักษ์ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเลือกทำมากมาย อาทิ การชมโรงคั่วกาแฟแบบธรรมชาติ การว่ายน้ำในบ่อน้ำธรรมชาติ (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล)  การเดินเล่นบนเส้นทางเดิมชมธรรมชาติเส้นต่างๆ  หรือเลือกซื้อของที่ระลึกจากร้านค้าในเขตอนุรักษ์  
      จากนั้นเดินทางกลับเมืองโคปัน   
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL MARINA COPAN 3* หรือเทียบเท่า (11)

  • Day 12
    12) วันที่สิบสอง โคปัน – โบราณสถานคีรีกัว – ริโอ ดูลเซ่ – ฟลอเรส (กัวเตมาลา) (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านเดินทางไปยัง จุดผ่านแดน เอล ฟลอริโด้ (El Florido Border Station) เพื่อเดินทางข้ามไปยังประเทศกัวเตมาลา หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่เมืองริโอ ดูลเซ่ (Rio Dulce) เพื่อผ่านต่อไปยังหุบเขาโมตากัว (Motagua Valley) มุ่งสู่จุดหมายปลายทางคือ แหล่งโบราณคดีคีรีกัว (Archaeological Site of Quirigua) คีรีกัว เป็นแหล่งโบราณคดีของชาวมายาที่เจริญสูงสุดในช่วง ค.ศ. 550 และ ค.ศ. 850 และถึงแม้ว่าในบางช่วงเวลาความเจริญอาจเทียบไม่ได้กับ โคปัน (Copan) ที่อยู่ไม่ไกลนัก ความสำคัญของที่นี่ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน องค์การยูเนสโก้จึงประกาศให้แหล่งโบราณคดี “ คีรีกัว” เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979 ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่การเกษตรขนาดใหญ่ที่ใช้เพาะปลูกต้นกล้วย นำท่านชมสิ่งที่ทำให้คีรีกัวมีชื่อเสียง นั่นคือ แท่งหินขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในอาณาจักรของชาวมายา สูงถึง 35 ฟุต หนักถึง 60 ตัน บนแท่งหินมีการแกะสลักอย่างแปลกพิสดารแต่คงไว้ซึ่งความสวยงาม จากนั้นชมส่วนสุสาน (Acropolis) ที่ตั้งอยู่ท้ายสุดของพลาซ่าหลัก (Great Plaza) ในบริเวณนี้ท่านจะได้ชมสวนประติมากรรมแท่งหินแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ในรูปแบบทั้งที่เหมือนจริง และทั้งในรูปสัตว์ในตำนาน เช่น กบ เต่า เสือจากัวร์ งู เป็นต้น
      ได้เวลาพอสมควรเดินทางต่อไปยังฟลอเรส ระหว่างทางผ่านท่าสำคัญเมืองริโอ ดูลเซ่
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      เดินทางต่อสู่ฟลอเรส เมืองฟลอเรส (Flores) เมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะในทะเลสาบเปเทน อิตซ่า (Lago de Peten Itza) ตัวเมืองจะมีถนนเชื่อมกับฝั่งบนผืนแผ่นดินใหญ่ ระยะทางยาว 500 เมตร บนถนนรอบเกาะฟลอเรสจะเต็มไปโรงแรม
      เล็กๆ ร้านอาหาร และร้านรวงต่างๆ 
      เมื่อเดินทางถึงฟลอเรส นำท่านเข้าโรงแรมเพื่อเช็คอิน
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL RAMADA TIKAL 4*, FLORES  หรือเทียบเท่า (12)
  • Day 13
    13) วันที่สิบสาม ฟลอเรส – ติกัล – ฟลอเรส (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      ออกเดินทางจากโรงแรมไปยัง ติกัล (Tikal) ชมความยิ่งใหญ่ของแหล่งโบราณคดีของชาวมายันที่หลงเหลือไว้ให้ผู้คนรุ่นหลังได้ชม การมาเยือนติกัล ถือว่าเป็นไฮไลท์หนึ่งของการท่องเที่ยวในอาณาจักรมายาโบราณ ติกัลไม่เหมือนกับแหล่งโบราณคดีที่อื่นๆ ของมายา เพราะการเดินชมปิระมิดโบราณที่นี่จะเป็นการเดินที่มีความเพลิดเพลินเดินผ่านป่าสีเขียว เต็มไปด้วยเสียงนกร้อง เสียงใบไม้ไหวปะทะสายลม เสียงฝูงลิงกระโดดบนยอดกิ่งไม้ที่แตกกิ่งก้านสาขาแผ่ออกจากต้นไม้ใหญ่ เสน่ห์อีกอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของติกัลคือปิระมิดที่สูงชันเสียดฟ้า อาณาบริเวณอันกว้างขวางกว่า 550 ตารางกิโลเมตร ของอุทยานประวัติศาสตร์ติกัลแห่งนี้มีซากโบราณสถานอยู่มากมายหลายพันแห่ง มัคคุเทศก์ท้องถิ่นจะนำท่านชมแห่งที่สำคัญ อาทิ Complex “Q” เป็นปิระมิดคู่แฝดที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง เดินไปยังพลาซ่าหลัก (Great Plaza) ชม The North Acropolis เป็นสุสานที่มีความสำคัญ เนื่องจากนักโบราณคดีได้ขุดค้นพบโครงสร้างเดิมที่เก่าแก่ถึง 400 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งถูกโครงสร้างใหม่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 สร้างทับของเดิมอยู่ และชม The Central Acropolis ส่วนนี้เป็นส่วนที่สันนิษฐานว่าเคยเป็นส่วนที่อยู่อาศัย หรือเป็นวังของชนชั้นสูงในติกัล เนื่องจากมีห้องขนาดเล็กมากมาย รวมทั้งมีบริเวณลานกว้างขวาง จากนั้นชมปิระมิดหมายเลข 4 (Temple IV) ซึ่งเป็นปิระมิดที่สูงสุดในติกัล สูงถึง 64 เมตร สร้างเสร็จในราวปี ค.ศ. 741         
      El Mundo Perdido (The Lost World) ตั้งอยู่มาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของพลาซ่าหลัก เป็นกลุ่มโบราณสถาน 38 แห่ง สร้างล้อมรอบปิระมิดใหญ่ ที่มีฐานโดยรอบยาว 80 เมตร สูง 32 เมตร จากการค้นพบเชื่อว่า ปิระมิดแห่งนี้มีอายุ
      เก่าแก่ที่สุดในติกัล ประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาล 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      บ่าย นำชม พิพิธภัณฑ์ซิลแวนนัส จี มอร์เลย์ (Sylvannus G. Morley Museum) ซึ่งจัดแสดงวัตถุโบราณที่ขุดค้นเจอจำพวกหยกและเซรามิคโดยเฉพาะจากสถานที่ฝังพระศพกษัตริย์มูน ดับเบิ้ล คอมบ์ (King Moon Double Comb) กษัตริย์องค์ที่ 26 ที่ขึ้นครองราชย์ในราชวงศ์ติกัล ในช่วงศตวรรษที่ 7 (ห้ามถ่ายรูปในพิพิธภัณฑ์)
      จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรม
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      พักผ่อนที่โรงแรม  HOTEL RAMADA TIKAL 4*, FLORES  หรือเทียบเท่า (13)
  • Day 14
    14) วันที่สิบสี่ ฟลอเรส – กัวเตมาลา ซิตี้ – ซานติเอโก อติตลัน – พานาจาเชล (B,L,D)
    • เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้า(แบบ Breakfast box)   
      เดินทางสู่สนามบินมุนโด มายา (Mundo Maya Airport) เพื่อบินสู่เมืองกัวเตมาลา ซิตี้
      07.37 น. ออกเดินทางสู่ กัวเตมาลา ซิตี้ ประเทศกัวเตมาลา โดย สายการบิน Avianca Airlines เที่ยวบินที่ AV7979 (0737-0835) (ใช้เวลาบิน 58 นาที) 
      08.35 น. เครื่องบินลงจอดที่สนามบินนานาชาติ ลา ออรอร่า (La Aurora International Airport) กรุงกัวเตมาลา ซิตี้ เมืองหลวงของประเทศกัวเตมาลา หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางไปที่ถนน Avenida Reforma เพื่อชม พิพิธภัณฑ์โบราณคดีและชาติพันธุ์แห่งชาติ  (National Museum of Archaelogy and Ethnology) สร้างในปี ค.ศ.1931 ภายในจัดแสดงศิลปวัตถุอันล้ำค่าในยุคก่อนโคลัมเบีย ซึ่งพบเจอในช่วงของอาณาจักรมายา  
      เดินทางต่อไปยัง พานาจาเชล (Panajachel) (ระยะทางราว 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองริมฝั่งทะเลสาบอติตลันทางทิศเหนือที่ครึกครื้น คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวกัวเตมาลา ซิตี้ ที่มาใช้วันหยุดพักผ่อนที่เมืองริมทะเลสาบแห่งนี้
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      นำท่านล่องเรือข้ามทะเลสาบไปยัง ซานติเอโก้ อติตลัน (Santiago Atitlan) เมืองริมฝั่งทะเลสาบที่ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของทะเลสาบ เมืองนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาไฟที่สวยงามสามลูก นั่นคือ ภูเขาไฟ ซานเปรโด้ (Volcan San Pedro) สูง 3,020 เมตร ภูเขาไฟโตลิมัน (Volcan Toliman) สูง 3,158 เมตร และภูเขาไฟอติตลัน (Volcan Atitlan) สูง 3,537 เมตร  นำท่านเดินชมเมืองที่มีสีสันไม่แพ้พานาจาเชล ผู้คนจะเรียกชื่อเมืองสั้นๆว่า เมืองซานติเอโก้ แวะเข้าชม โบสถ์แห่งนักบุญซานติเอโก้ (Church of Santiago Apostol)  ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1547 เพื่อเป็นเกียรติแก่เซนต์เจมส์ จากนั้นชมพิธีบูชา “ มาชีมอนห์ ” (Maximon) หรือ “ ซาน ซีมอน” (San Simon) เทพเจ้าของชาวพื้นเมืองมายา ที่เป็นที่นับถือเคารพบูชาโดยชาวพื้นเมืองมายาในแถบที่ราบสูง ทุกๆปีจะมีการเคลื่อนย้ายเทพเจ้าองค์นี้ไปยังที่ใหม่ เพื่อให้อำนาจขององค์เทพแผ่กระจายคุ้มครองชาวมายา โดยมีคณะผู้ดูแลที่เรียกว่า โคฟาเดีย (Cofradia) ดูแลพิธีการต่างๆ 
      เย็น เดินทางกลับสู่เมืองพานาจาเชล 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL POSADA DON RODRIGO 3*, PANAJACHEL หรือเทียบเท่า  (14)
  • Day 15
    15) วันที่สิบห้า ตลาดชิชิคาสเทนันโก –เมืองโบราณซิมเช่ - แอนติกัว (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านเดินทางไปยังเมืองชิชิคาสเทนันโก เพื่อชม ตลาดพื้นเมืองชิชิคาสเทนันโก (Chichicastenango Market) ชุมชนชาวพื้นเมืองมายันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในกัวเตมาลา การได้ชมตลาดในเมืองชิชิคาสเทนันโกแห่งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของการเดินทาง (ตลาดเปิดเฉพาะวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์) สีสันและความมีชีวิตชีวาของตลาดพื้นเมืองแห่งนี้เป็นเสน่ห์ของเมือง ชาวพื้นเมืองจะนำของพื้นเมืองออกมาวางขาย โดยเฉพาะงานศิลปหัตถกรรมพื้นเมืองที่วางอวดลวดลายสีสันละลานตา  
      ชม โบสถ์ซานโต โทมัส (Church of Santo Tomas) โบสถ์คาทอลิกที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1540 นอกเหนือจากการเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวคาทอลิคแล้ว โบสถ์แห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญที่ชาวมายาใช้ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อพื้นเมืองดั้งเดิมต่างๆ ซึ่งเห็นได้ในแต่ละวันจนเป็นกิจวัตรประจำวัน  
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      จากนั้นเดินทางต่อไปยังที่ราบสูงเพื่อไปยัง ซากเมืองโบราณซิมเช่ (Ruins of lximche) เป็นอดีตราชธานีของอาณาจักรคัคชิเกล (Cakchiquel Kingdom) ซึ่งอยู่ในช่วงยุคหลังคลาสสิก ประมาณ 150 ปี ก่อนผู้ยึดครองจากสเปนจะเข้ามาในปี ค.ศ. 1524 สเปนได้ใช้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองหลวงแห่งแรก
      ได้เวลาพอสมควรเดินทางต่อไปยังเมืองแอนติกัว
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ 
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL PORTA ANTIGUA 4*, ANTIGUA  หรือเทียบเท่า (15)
  • Day 16
    16) วันที่สิบหก แอนติกัว – กัวเตมาลา ซิตี้ (B,L,D)
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านชม เมืองแอนติกัว (Antigua) เมืองอาณานิคมที่สวยงามแห่งนี้เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใส ร้าน
      รวงของเหล่าศิลปินและช่างฝีมือหัตถกรรม โบสถ์และวิหารเก่าแก่ โรงเรียน ที่ถูกวางผังเมืองไว้อย่างเป็นระเบียบ
      เรียบร้อย สถาปัตยกรรมที่มีมาตั้งแต่ยุคอาณานิคมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นภาพความรุ่งเรืองในอดีต ในฐานะเมืองหลวงโบราณของกัวเตมาลาในยุคอาณานิคมสเปนที่อยู่นานถึง 233 ปี ก่อนที่จะถูกย้ายไปที่เมืองหลวงปัจจุบัน (กัวเตมาลาซิตี้) ในปี ค.ศ. 1776 เนื่องด้วยมรดกทางสถาปัตยกรรมที่ตกทอดมาจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง ทำให้แอนติกัวเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ และควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ ทางองค์การยูเนสโก้จึงจัดขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979 นำชมอาคารสถาปัตยกรรมที่สำคัญๆ ของเมือง อาทิ พลาซ่า มายอร์ หรือจัตุรัสกลางเมือง โบสถ์และวิหารประจำเมือง ศาลาว่าการเมือง เป็นต้น 
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน
      เดินทางสู่เมืองหลวง กัวเตมาลา ซิตี้ 
      นำท่านชมเมืองหลวง กัวเตมาลา ซิตี้ เมืองหลวงแห่งใหม่นี้ถูกสถาปนาขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 ณ ทำเลที่ตั้งบริเวณหุบเขาเอมิต้า ที่ครั้งหนึ่งเมืองแห่งหนึ่งในยุดก่อนโคลัมเบีย ชื่อเมือง Kaminal Juyu เคยเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด เริ่มด้วยการชม แผนที่ประเทศกัวเตมาลา (The Relief Map) ซึ่งถือเป็นผลงานออกแบบที่ยอดเยี่ยมของเหล่าวิศวกรชาวกัวเตมาลา สร้างในปี ค.ศ. 1904 ซึ่งแผนที่จำลองกลางแจ้งแห่งนี้ ถูกสร้างในมาตราส่วนที่ได้สัดส่วนสวยงามและถูกต้องแม่นยำบนพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ต่อด้วยการชม พลาซ่าแห่งรัฐธรรมนูญ (Plaza de la Constitucion) เดิมชื่อพลาซ่ากลาง (Central Plaza) เยี่ยมชม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ (National Palace of Culture) ที่มีชื่อเสียงในภาพจิตรกรรมที่แสดงประวัติศาสตร์ของแผ่นดินและกระจกสีที่ประดับอาคาร ชม วิหารแห่งเมือง (Metropolitan Cathedral) ที่สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปีค.ศ.1782-1815 ชมย่านการค้า (Portal del Comercio) เดินทางต่อไปยังทิศใต้ของเมือง โดยมุ่งไปยัง ศูนย์การปกครองเมือง (Civic Center) ประกอบไปด้วยอาคารสมัยใหม่ที่สำคัญต่างๆ อาทิ โรงละครมิเกล แองเจิ้ล แอสตูเรียส (Miguel Angel Asturias Theatre) ธนาคารแห่งกัวเตมาลา (Bank of Guatemala) อาคารที่ว่าการเมือง (City Hall) 
      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ  
      พักผ่อนที่โรงแรม HOTEL BARCELO 5*, GUATEMALA CITY หรือเทียบเท่า (16)

  • Day 17
    17) วันที่สิบเจ็ด กัวเตมาลา ซิตี้ – ปานามา – อัมสเตอร์ดัม (B)
    • 08.30 น. รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 
      อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
      10.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ ลา ออรอร่า (La Aurora International Airport) กรุงกัวเตมาลา ซิตี้
      หลังจากเช็คอินแล้ว อิสระอาหารกลางวันภายในสนามบิน
      13.58 น. ออกเดินทางสู่ ปานามา ซิตี้ ประเทศปานามา โดย สายการบินโคปา แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CM555 (1358-1727) (ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 29 นาที)
      17.27 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติโตคุเมน (Tocumen International Airport) เมืองปานามา ซิตี้  รอเปลี่ยนเครื่องบิน
      18.45 น. ออกเดินทางสู่ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดย สายการบิน KLM เที่ยวบินที่ KL758 (1845-1055+1)  
      (ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 10 นาที)
  • Day 18
    18) วันที่สิบแปด อัมสเตอร์ดัม – กรุงเทพฯ
    • 10.55 น. เดินทางถึงสนามบินสคิปโฮล อัมสเตอร์ดัม รอเปลี่ยนเครื่อง อิสระช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
      17.15 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดย สายการบิน KLM เที่ยวบินที่ KL875 (1715-1005+1) 
              (ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 50 นาที)
  • Day 19
    19) วันที่สิบเก้า สนามบินสุวรรณภูมิ
    • 10.05 น.       เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
Top